ปลาหมึกแห้งเป็นอาหารพิเศษที่น่ารับประทาน มีรสหวานธรรมชาติของเนื้อปลาหมึก ความหนึบหนับกำลังดี สีสันสวยงาม และกลิ่นหอมเย้ายวนใจ แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าการจะผลิตปลาหมึกแห้งที่ได้มาตรฐาน สะอาด อร่อย และปลอดภัยนั้น ต้องผ่านกระบวนการที่เข้มงวดตั้งแต่การคัดเลือกปลาหมึกไปจนถึงการเก็บรักษาขั้นสุดท้าย มาร่วมกับ Ola Squid เพื่อสำรวจรายละเอียดของกระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งคุณภาพดีในบทความนี้กัน!

1. กระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งโดยละเอียด

กระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้:

  • ขั้นตอนที่ 1 – การเลือกวัตถุดิบ:
    • เลือกปลาหมึกกล้วยหรือปลาหมึกหลอดที่สดใหม่ ลำตัวหนา เนื้อแน่น ตาใส ไม่มีสีเปลี่ยนหรือซีดจาง
    • ตรวจสอบหัว หนวด ตาปลาหมึกเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ช้ำ ไม่นิ่ม; หลีกเลี่ยงปลาหมึกที่แช่แข็งมานานหรือเก็บรักษาไม่ดี
    • วัตถุดิบปลาหมึกต้องมีแหล่งที่มาที่ชัดเจน สดจากทะเล ไม่มีสารกันบูดหรือสารเคมีแปลกปลอม
  • ขั้นตอนที่ 2 – การเตรียมวัตถุดิบ:
    • ล้างปลาหมึกให้สะอาดด้วยน้ำจืดเพื่อขจัดทราย เมือก และสิ่งสกปรก
    • นำเครื่องใน ถุงหมึกออก ทำความสะอาดส่วนหัว (บั้งหรือเอาตา ฟันปลาหมึกออก) เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นคาวและรสขมหลังการตาก
    • หากต้องการให้ปลาหมึกแห้งมีรสชาติพิเศษ (เช่น รสเผ็ดเล็กน้อยหรือเค็มอ่อนๆ) สามารถหมักด้วยเกลือ พริก หรือพริกป่นประมาณ 15-30 นาที; สำหรับปลาหมึกตัวหนา ควรบั้งตัวปลาหมึกเบาๆ เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อได้ดีขึ้น
  • ขั้นตอนที่ 3: การตาก/การทำให้แห้ง:
    • การตากแดดธรรมชาติ: แขวนปลาหมึกบนเชือกหรือตะขอ หรือวางบนตะแกรง/ตาข่ายตากในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ตากแต่เช้าตรู่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากแสงแดดอ่อนๆ และพลิกปลาหมึกให้แห้งทั้งสองด้าน หลังจากตากแดดจัดประมาณ 3-4 วัน เมื่อสัมผัสแล้วปลาหมึกด้านนอกจะแห้ง แต่ด้านในยังคงความหนึบหนับเล็กน้อย ถือว่าได้มาตรฐาน
กระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งได้มาตรฐาน
กระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งได้มาตรฐาน
  • หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือผลิตในปริมาณมาก ควรใช้เตาอบแห้ง: วางปลาหมึกบนตะแกรง ตั้งอุณหภูมิประมาณ 50-60°C ทำให้แห้งในเวลาไม่กี่ชั่วโมง (ปกติ 4-6 ชั่วโมง) ขึ้นอยู่กับความหนาของปลาหมึก วิธีนี้รับประกันความรวดเร็ว ควบคุมได้ดีขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศ
  • ขั้นตอนที่ 4 – การตรวจสอบคุณภาพหลังการทำให้แห้ง:
    • สังเกตสี ปลาหมึกแห้งที่ได้มาตรฐานมักจะมีสีชมพูอ่อนธรรมชาติหรือสีเหลืองอ่อนขึ้นอยู่กับชนิด ไม่คล้ำหรือดำจนเกินไป
    • ปลาหมึกแห้งที่ถูกต้องคือเมื่อสัมผัสแล้วไม่เหนียวมือ ไม่มีไอน้ำในเนื้อ; หากยังมีความชื้นอยู่ ต้องนำไปตากหรืออบแห้งอีกครั้ง
    • มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของปลาหมึกทะเล รสหวานของเนื้อเมื่อเคี้ยว
  • ขั้นตอนที่ 5 – การบรรจุและติดฉลาก:
    • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะอาด แห้ง หรือใช้ถุงสุญญากาศเพื่อลดการสัมผัสอากาศ จำกัดการเกิดออกซิเดชัน และลดการสูญเสียความชื้น
    • ติดฉลากข้อมูลผลิตภัณฑ์บนบรรจุภัณฑ์ รวมถึงชนิดของปลาหมึก วันที่ผลิต วันหมดอายุ และคำแนะนำในการเก็บรักษา หากมีใบรับรองสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหารหรือข้อมูลแหล่งที่มา ควรแสดงให้ชัดเจน

อ่านเพิ่มเติม: 10 บริษัทผลิตปลาหมึกแห้งคุณภาพในเวียดนาม

2. การเก็บรักษาปลาหมึกแห้ง

ไม่ว่าปลาหมึกแห้งจะอร่อยแค่ไหน หากไม่ได้รับการดูแลอย่างระมัดระวัง เพียงไม่นานคุณก็จะพบว่ารสชาติจืดจางลง ความหนึบหนับหายไป หรือที่แย่กว่านั้นคือเกิดราขึ้น ซึ่งน่าเสียดายมาก คำแนะนำในการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งหากไม่ใช้ตู้เย็น:

  • ตรวจสอบปลาหมึกก่อนเก็บ หากพบว่ายังมีความชื้นอยู่ ให้นำไปตากแดดอีก 1-2 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าปลาหมึกแห้งสนิท
  • เมื่อแห้งสนิทแล้ว ให้ใส่ปลาหมึกในถุงซิปล็อกหรือถุงสุญญากาศ เพื่อลดการสัมผัสกับอากาศและความชื้นให้มากที่สุด
  • วางปลาหมึกในที่อากาศถ่ายเทสะดวก แห้ง หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือชื้น
  • ทุกสัปดาห์ละครั้ง หากมีแดด คุณควรนำปลาหมึกออกมาตากอีกครั้ง เพื่อขจัดความชื้นที่สะสมอยู่ และเพื่อให้ปลาหมึกคงความหนึบหนับ อร่อย และมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติอยู่เสมอ
คำแนะนำในการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งอย่างถูกวิธี
คำแนะนำในการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งอย่างถูกวิธี

หากคุณซื้อปลาหมึกแห้งมามากและยังใช้ไม่หมด ต้องการเก็บไว้ใช้ทีละน้อย ควรเก็บไว้ในตู้เย็น:

  • อันดับแรก ให้ห่อปลาหมึกแห้งด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ที่สะอาดก่อน เพื่อจำกัดกลิ่นไม่ให้กระจายไปสู่อาหารอื่นๆ จากนั้น ห่อด้วยถุงพลาสติกหนาอีกชั้น หรือใช้ถุงสุญญากาศเพื่อปิดผนึกให้แน่น
  • ใส่ในช่องแช่แข็งหรือช่องฟรีซของตู้เย็น อุณหภูมิที่เย็นจัดจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา พร้อมทั้งช่วยให้ปลาหมึกไม่นิ่มลง
  • เมื่อนำมาใช้ ให้หยิบในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น และส่วนที่เหลือยังคงเก็บรักษาในตู้เย็นอย่างมิดชิด หลีกเลี่ยงการเปิดถุงและสัมผัสอากาศบ่อยครั้ง ซึ่งจะทำให้ปลาหมึกชื้น

3. Ola Squid – แหล่งจำหน่ายปลาหมึกแห้งคุณภาพ

หากคุณกำลังมองหาแหล่งจำหน่ายปลาหมึกแห้งที่อร่อย ปลอดภัย และมีราคาสมเหตุสมผล Ola Squid คือที่ที่คุณวางใจได้ ที่นี่ ปลาหมึกจะถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน จากนั้นผ่านกระบวนการผลิตปลาหมึกแห้งที่ได้มาตรฐาน โดยมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน เพื่อคงไว้ซึ่งความหวานของเนื้อและรสชาติธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Ola Squid บรรจุในถุงสุญญากาศอย่างพิถีพิถัน มีฉลากครบถ้วน คำแนะนำในการเก็บรักษา และรับประกันว่าไม่มีสารกันบูดที่เป็นอันตราย ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพ แหล่งที่มาที่ชัดเจน รวมถึงนโยบายส่วนลดพิเศษสำหรับคำสั่งซื้อจำนวนมากได้อย่างเต็มที่

นอกจากจะมีปลาหมึกแห้งหลากหลายขนาดและประเภทให้เลือกแล้ว Ola Squid ยังโดดเด่นด้วยบริการให้คำปรึกษาด้วยใจ และบริการจัดส่งรวดเร็วทั่วประเทศ ไม่ว่าคุณจะต้องการลิ้มรสปลาหมึกแห้งที่บ้าน หรือเป็นของขวัญอันหรูหรา Ola Squid พร้อมตอบสนองด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและบริการระดับมืออาชีพเสมอ

รีบสั่งซื้อที่ Ola Squid เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่สุด: เยี่ยมชมร้านค้าของเราที่นี่

ข้างต้นคือข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการผลิตปลาหมึกแห้ง รวมถึงคำแนะนำการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งอย่างถูกวิธี และอย่าลืม ติดต่อ Ola Squid ได้เลยวันนี้ผ่านสายด่วน 0989.616.989 เพื่อรับคำปรึกษาและใบเสนอราคาโดยละเอียดเมื่อสั่งซื้อปลาหมึกแห้งคุณภาพดี รสชาติต้นตำรับที่นี่!

Rate this post