หมึกเป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่คุ้นเคยและเป็นที่นิยม เนื่องจากปรุงง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือรักษาสุขภาพ คำถามที่ว่า “หมึก 100 กรัมมีกี่แคลอรี่?” และ “กินหมึกแล้วอ้วนไหม?” เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมาก บทความนี้จะช่วยตอบคำถามของคุณอย่างละเอียด พร้อมทั้งให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการบริโภคหมึกในมื้ออาหารประจำวัน
1. หมึก 100 กรัมมีกี่แคลอรี่?
หมึกเป็นอาหารทะเลที่ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากคุณกังวลเกี่ยวกับปริมาณแคลอรี่ในอาหาร หมึกสด 100 กรัมโดยเฉลี่ยให้พลังงานประมาณ 92 แคลอรี่ ซึ่งเหมาะสำหรับหลายๆ โปรแกรมลดน้ำหนัก (ตาม FDA’s Food Central) ระดับแคลอรี่นี้ต่ำกว่าอาหารประจำวันหลายชนิด เช่น เนื้อหมู (216 แคลอรี่), เนื้อวัว (250 แคลอรี่), ไข่ไก่ (155 แคลอรี่),…
![[ไขข้อข้องใจ] 100 กรัมหมึกกี่แคลอรี? กินหมึกทำให้อ้วนไหม? 1 ค้นหาว่าหมึก 100 กรัมมีกี่แคลอรี่?](https://olasquid.com/wp-content/uploads/2025/10/100g-muc-bao-nhieu-calo.jpg)
นอกจากนี้ หมึกสดยังมีโปรตีน 15.6 กรัม, คอเลสเตอรอล 223 มิลลิกรัม และวิตามินหลายชนิด เช่น B12, B2, B3 รวมถึงแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แคลเซียม, เหล็ก, สังกะสี, แมกนีเซียม,…
ในทางกลับกัน หมึกแห้งมีปริมาณแคลอรี่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยสูงถึง 291 แคลอรี่/100 กรัม หมึกแห้งไม่เพียงแต่ให้พลังงานสูง แต่ยังโดดเด่นด้วยปริมาณโปรตีนที่สูงกว่ามาก (ประมาณ 60 กรัม /100 กรัม) และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย นอกจากนี้ หมึกนึ่ง 100 กรัมมีประมาณ 100 แคลอรี่ และหมึกผัด 100 กรัมมี 136 แคลอรี่ คุณสามารถเลือกหมึกให้เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของคุณ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ทางโภชนาการและวิธีการปรุง
2. กินหมึกแล้วอ้วนไหม?
การกินหมึกจะไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หากคุณกินอย่างถูกวิธีและปรับปริมาณให้เหมาะสม เมื่อเทียบกับอาหารอื่นๆ หมึกมีแคลอรี่และไขมันต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปรุงด้วยวิธีง่ายๆ เช่น นึ่ง ต้ม หรือย่าง หมึกสด 100 กรัมมีเพียงประมาณ 92 แคลอรี่ พร้อมไขมันต่ำและส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งดีต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ หมึกยังอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น เหล็ก ทองแดง ซีลีเนียม วิตามิน B2 ซึ่งช่วยสนับสนุนกระบวนการเผาผลาญและรักษารูปร่าง อย่างไรก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนัก คุณควรจำกัดอาหารจากหมึกที่ปรุงด้วยน้ำมันมาก เช่น การทอดกรอบ การเคี่ยว หรือการผัดเครื่องเทศเยอะๆ เพราะจะทำให้ปริมาณแคลอรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
3. ประโยชน์ของการกินหมึก
หมึกไม่เพียงแต่เป็นอาหารอร่อยที่คุ้นเคยในอาหาร แต่ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ยอดเยี่ยมมากมาย เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการที่อุดมสมบูรณ์และสมดุล นี่คือประโยชน์ที่โดดเด่นของหมึกต่อร่างกาย:
- เสริมโปรตีนและสนับสนุนการพัฒนาเซลล์: หมึกเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ช่วยสร้าง บำรุงรักษา และฟื้นฟูเนื้อเยื่อในร่างกาย ด้วยโปรตีน 15.6 กรัมในหมึกสด 100 กรัม ช่วยให้คุณเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ปรับปรุงภูมิคุ้มกัน และฟื้นตัวหลังการออกกำลังกาย
- เสริมสร้างการทำงานของสมองและระบบประสาท: หมึกอุดมไปด้วยวิตามินกลุ่ม B โดยเฉพาะ B2 และ B12 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาการทำงานของสมอง ปรับปรุงความจำ สนับสนุนการส่งผ่านกระแสประสาท และลดความเสี่ยงของไมเกรน
- ต้านเชื้อแบคทีเรียและเพิ่มภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ: การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสารประกอบในหมึกมีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เช่น E.coli และ K. pneumoniae การกินหมึกช่วยให้ร่างกายเพิ่มความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร
![[ไขข้อข้องใจ] 100 กรัมหมึกกี่แคลอรี? กินหมึกทำให้อ้วนไหม? 2 การกินหมึกช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย เสริมโปรตีน ป้องกันภาวะโลหิตจาง,...](https://olasquid.com/wp-content/uploads/2025/10/cong-dung-khi-an-muc.jpg)
- ป้องกันภาวะโลหิตจาง: เนื่องจากมีปริมาณทองแดงและธาตุเหล็กสูง หมึกจึงช่วยส่งเสริมกระบวนการสร้างเลือด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และสนับสนุนระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางหรือต้องการปรับปรุงคุณภาพเลือด
- สนับสนุนการป้องกันมะเร็ง: หมึกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแก่ชราและการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง การบริโภคหมึกอย่างถูกวิธีสามารถช่วยป้องกันมะเร็งและโรคเรื้อรังต่างๆ ได้
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและสนับสนุนผู้ป่วยเบาหวาน: วิตามิน B3 ในหมึกช่วยปรับปรุงกระบวนการเผาผลาญและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สนับสนุนการผลิตอินซูลิน
- ดีต่อกระดูก ฟัน และระบบหัวใจและหลอดเลือด: ด้วยปริมาณแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโอเมก้า-3 หมึกช่วยเสริมสร้างระบบกระดูก ปรับปรุงการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและความดันโลหิตสูง
- เพิ่มสมาธิและปรับปรุงอารมณ์: สารโดปามีนในหมึกช่วยกระตุ้นความตื่นตัว ปรับปรุงความสามารถในการมีสมาธิ และลดความเครียดทางจิตใจ
อ่านเพิ่มเติม:
- กินหมึกดีไหม? การประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ
- [ไขข้อสงสัย] กระดองหมึกทำอะไรได้บ้าง? ยาสมุนไพรจากกระดองหมึก
4. กินหมึกมากไปมีอันตรายไหม?
แม้ว่าหมึกจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การกินหมึกมากเกินไปก็อาจมีความเสี่ยงบางประการ หากไม่บริโภคอย่างเหมาะสม
หมึกอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน อาการคัน หรือปากบวม คลื่นไส้ เวียนศีรษะ และปวดศีรษะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารทะเลหรืออาหารอื่นๆ ดังนั้น ควรระมัดระวังเมื่อกินหมึกเป็นครั้งแรก หรือเมื่อมีร่างกายที่แพ้ง่าย
นอกจากนี้ หมึกยังมีปริมาณคอเลสเตอรอลค่อนข้างสูง โดยเฉพาะหมึกแห้ง ในหมึกแห้ง 100 กรัมมีคอเลสเตอรอลสูงถึง 615 มิลลิกรัม ซึ่งสูงกว่าเนื้อหมูติดมันหลายเท่า การบริโภคหมึกมากเกินไปอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง และปัญหาหัวใจและหลอดเลือดอื่นๆ
![[ไขข้อข้องใจ] 100 กรัมหมึกกี่แคลอรี? กินหมึกทำให้อ้วนไหม? 3 หากกินหมึกมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน](https://olasquid.com/wp-content/uploads/2025/10/di-ung-khi-an-muc.jpg)
หมึกยังมีความสามารถในการสะสมสารปรอท ซึ่งเป็นสารพิษที่เป็นอันตราย หากได้รับเกินปริมาณที่กำหนด อาจส่งผลเสียต่อตับ ไต และระบบหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น ผู้ที่มีโรคหัวใจ ไต ตับ หรือภาวะไขมันในเลือดสูง ควรจำกัดปริมาณ หรือปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคหมึก เพื่อความปลอดภัย ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรจำกัดปริมาณการบริโภคหมึกสดประมาณ 100 กรัม และควรกินหมึกเพียง 2-3 มื้อต่อสัปดาห์
5. ข้อควรระวังบางประการในการกินหมึก
หมึกเป็นอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่นิยม แต่เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ คุณควรคำนึงถึงบางสิ่งในการเลือกและปรุงหมึก:
- ควรเลือกซื้อหมึกสดที่มีสีสดใสเป็นมันเงา เนื้อแน่น ยืดหยุ่นดี ตาสดใสชัดเจน และหนวดไม่ติดกันเป็นพวง หลีกเลี่ยงการเลือกหมึกที่เน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น หรือทิ้งไว้นาน
- ผู้ที่มีอาการแพ้ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด หรือกระเพาะอาหาร ไม่ควรกินหมึก เพราะมีคอเลสเตอรอลและโปรตีนสูง
- เมื่อปรุงอาหาร ควรนำส่วนต่างๆ เช่น ถุงหมึก หนวด และตาออกอย่างละเอียด เพื่อให้อาหารอร่อยขึ้นและปลอดภัยต่อสุขภาพ ควรปรุงหมึกให้สุกทั่วถึง หลีกเลี่ยงการกินหมึกดิบเพื่อป้องกันอาการผิดปกติทางเดินอาหารที่เกิดจากเปปไทด์
- จำกัดการทอดแบบ deep-fry หรือใช้แป้งทอดกรอบ เพราะจะเพิ่มปริมาณไขมันและคาร์โบไฮเดรต ควรเน้นอาหารนึ่ง ต้ม หรือย่าง เพื่อรักษาสารอาหารไว้
- ไม่ควรกินหมึกขณะดื่มเบียร์ เนื่องจากหมึกมีสารบิสมัท ซึ่งเมื่อรวมกับวิตามิน B1 ในเบียร์ อาจทำให้เกิดอาการผื่นแดงบนผิวหนัง
- หมึกควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 0 ถึง 5 องศาเซลเซียส และไม่ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็งนานเกินไป เพื่อรักษาความสดใหม่และจำกัดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
อ่านเพิ่มเติม: 8 วิธีทำโจ๊กหมึกสำหรับเด็กวัยหัดเดิน ง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
คุณยังสามารถดูบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในหัวข้อ โภชนาการและสุขภาพ บน Ola Squid ได้อีกด้วย
จากบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้รับคำตอบสำหรับข้อสงสัยที่ว่า “หมึก 100 กรัมมีกี่แคลอรี่?” และ “กินหมึกแล้วอ้วนไหม?” หมึกเป็นอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แคลอรี่ต่ำ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพหากบริโภคอย่างถูกวิธี และอย่าลืม ติดต่อ Ola Squid หากคุณยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหมึก หรือต้องการคำแนะนำและสั่งซื้อหมึกแห้งคุณภาพดีเยี่ยม เยี่ยมชมร้านค้าของเราเพื่อดูผลิตภัณฑ์หมึกแห้งหลากหลายชนิด!
รีบสั่งซื้อสินค้าจาก Ola Squid เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่สุด:
อ่านเพิ่มเติม: หมึกมีกระดูกสันหลังหรือไม่? ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับหมึก

English
Tiếng Việt