ปลาหมึกแห้งเป็นหนึ่งในอาหารทะเลพิเศษที่ได้รับความนิยมจากหลายคน เนื่องจากมีรสชาติเข้มข้น เตรียมง่าย และเก็บรักษาได้นาน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเก็บรักษา หลายคนประสบปัญหาปลาหมึกแห้งขึ้นรา บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุ วิธีการสังเกต และการจัดการเมื่อพบสถานการณ์นี้ พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องเพื่อให้ปลาหมึกแห้งยังคงอร่อยและปลอดภัยเสมอ

1. สาเหตุที่ปลาหมึกแห้งขึ้นรา

ปรากฏการณ์เชื้อราบนปลาหมึกแห้งมักเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม สาเหตุทั่วไปบางประการได้แก่:

  • ความชื้นสูง: สภาพภูมิอากาศเขตร้อนชื้นแบบมรสุมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเราที่มีความชื้นในอากาศสูงตลอดทั้งปีเป็นปัจจัยที่ทำให้ปลาหมึกแห้งขึ้นราได้ง่าย แม้กระทั่งในระหว่างการขนส่งหรือการจัดเก็บที่ร้านค้า หากเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง ปลาหมึกจะดูดซับไอน้ำและขึ้นราได้ง่ายมาก
  • ไม่ได้ปิดผนึกอย่างแน่นหนา: หากปลาหมึกแห้งถูกเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง ไม่ได้ปิดผนึกอย่างแน่นหนา ปลาหมึกแห้งจะสัมผัสกับอากาศได้ง่าย และจะขึ้นราได้ง่ายมาก แม้กระทั่งเมื่อห่อหุ้มอย่างแน่นหนา แต่หากเก็บไว้ใกล้เตา ตู้เย็นที่มีความชื้น หรือในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี เชื้อราก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้
ปลาหมึกแห้งขึ้นราอาจเกิดจากการบรรจุหีบห่อไม่สนิท ความชื้นสูง,...
ปลาหมึกแห้งขึ้นราอาจเกิดจากการบรรจุหีบห่อไม่สนิท ความชื้นสูง,…
  • เก็บรักษานานเกินไป: แม้จะเป็นอาหารแห้ง ปลาหมึกแห้งก็ยังมีวันหมดอายุ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปโดยไม่ใช้ น้ำมันในปลาหมึกอาจเกิดการออกซิเดชัน ทำให้คุณภาพลดลงและเกิดเชื้อราได้
  • ซื้อปลาหมึกแห้งคุณภาพต่ำ: ปลาหมึกหลายชนิดที่ผลิตมานาน ไม่ได้มาตรฐานการตากแห้ง หรือไม่ได้บรรจุสุญญากาศอย่างถูกต้อง จะเสียหายได้ง่ายมาก ปลาหมึกที่เก่าหรือไม่ทราบแหล่งที่มามักจะขึ้นราเร็วกว่าแม้จะเก็บรักษาอย่างถูกวิธีก็ตาม

2. สัญญาณบ่งบอกว่าปลาหมึกแห้งขึ้นรา

การสังเกตปลาหมึกแห้งขึ้นราไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่สังเกตให้ดีก่อนนำไปใช้ คุณก็สามารถรับรู้ได้ง่ายๆ นี่คือสัญญาณบางประการที่โดดเด่น:

  • มีจุดราแปลกๆ ปรากฏบนพื้นผิว: เมื่อปลาหมึกแห้งขึ้นรา มักจะมีจุดเล็กๆ สีเขียวเข้มหรือดำกระจายอยู่บนลำตัวหรือหนวดปลาหมึก สำหรับปลาหมึกที่เพิ่งเริ่มขึ้นรา คุณต้องตรวจสอบบริเวณหนวด หัว และพลิกดูด้านหลังอย่างละเอียด เนื่องจากจุดราในระยะนี้มักจะเล็กและจางมาก ทำให้ยากต่อการสังเกต
  • มีชั้นเคลือบสีขาวผิดปกติ: ปลาหมึกแห้งที่มีคุณภาพมักจะมีชั้นแป้งสีขาวบางๆ แห้งๆ เคลือบอยู่ด้านนอก ซึ่งเบาและปลิวได้ง่ายเมื่อเป่าลม ในทางกลับกัน ปลาหมึกที่ขึ้นราจะมีชั้นสีขาวหนา ชื้น และเหนียว เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเปียกเล็กน้อย และไม่สามารถเป่าให้ปลิวไปได้
  • มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นแปลกๆ: ปลาหมึกแห้งปกติจะมีกลิ่นหอมและมีกลิ่นทะเลอ่อนๆ หากคุณได้กลิ่นฉุน กลิ่นแรง หรือกลิ่นอับชื้นที่ไม่พึงประสงค์ เป็นไปได้มากว่าปลาหมึกนั้นติดเชื้อราแล้ว
  • รสชาติเปลี่ยนไป: ปลาหมึกที่ขึ้นรามักจะสูญเสียความหวานตามธรรมชาติไป โดยมีรสขม คาว หรือฝาดเล็กน้อยแทน ทำให้รสชาติอาหารไม่อร่อยและยากที่จะรับประทาน

ดูเพิ่มเติม: ปลาหมึกแห้งมีฝุ่นขาว กินอร่อยไหม?

3. ปลาหมึกแห้งขึ้นรา กินได้ไหม?

ทางที่ดีที่สุดคือคุณไม่ควรบริโภคปลาหมึกแห้งที่ขึ้นรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราได้แพร่กระจายไปทั่วหรือมีสีเขียวเข้มและดำชัดเจน แม้ว่าปลาหมึกแห้งจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูง แต่การบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนเชื้อราอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการ

ปลาหมึกแห้งขึ้นรา กินได้ไหม?
ปลาหมึกแห้งขึ้นรา กินได้ไหม?

ในสภาพแวดล้อมที่มีเชื้อรา จุลินทรีย์หลายชนิดจะสร้างเอนไซม์และสารพิษที่สามารถทำให้เกิดความผิดปกติในระบบย่อยอาหาร หรือแม้กระทั่งนำไปสู่อาหารเป็นพิษเฉียบพลันหากบริโภคเข้าไป ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ เชื้อราบนอาหารทะเลแห้งสามารถผลิตอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งตับ

4. วิธีจัดการเมื่อปลาหมึกแห้งขึ้นราเล็กน้อย

ในกรณีที่ปลาหมึกแห้งเพิ่งขึ้นราเล็กน้อย มีจุดสีเขียวเข้มหรือดำเล็กๆ กระจัดกระจาย คุณยังสามารถจัดการเพื่อนำไปใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าการล้างทำความสะอาดหรือการตากแดดเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะสารพิษที่เชื้อราปล่อยออกมา โดยเฉพาะอะฟลาทอกซิน มีความทนทานต่อความร้อนสูงมากและไม่ถูกทำลายด้วยอุณหภูมิปกติ

วิธีการจัดการที่ถูกต้องมีดังนี้:

  • ขั้นตอนที่ 1: ใช้มีดคมๆ คว้านส่วนที่เป็นราออกทั้งหมด ให้แน่ใจว่าได้กำจัดส่วนราที่ฝังลึกเข้าไปข้างในด้วย
  • ขั้นตอนที่ 2: แช่ปลาหมึกในน้ำอุ่นประมาณ 60°C เป็นเวลา 20-30 นาที หรืออาจใช้ น้ำส้มสายชูเจือจางแทนเพื่อทำความสะอาดพื้นผิวและฆ่าเชื้อ
  • ขั้นตอนที่ 3: หลังจากดำเนินการแล้ว ไม่ควรเก็บรักษาต่อ ควรนำไปปรุงอาหารทันทีเพื่อป้องกันเชื้อรากลับมาอีกครั้ง หรือความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น

ดูเพิ่มเติม: วิธีแยกแยะปลาหมึกแห้งของปลอมและของจริงที่ง่ายที่สุด

5. คำแนะนำในการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งไม่ให้ขึ้นรา

เพื่อให้ปลาหมึกแห้งยังคงอร่อยและไม่ขึ้นรา คุณต้องใส่ใจวิธีการเก็บรักษาทันทีหลังจากซื้อมาหรือเมื่อยังใช้ไม่หมด นี่คือวิธีง่ายๆ แต่มีประสิทธิภาพที่คุณสามารถนำไปใช้ได้:

  • เก็บรักษาในตู้เย็น: วิธีที่ดีที่สุดคือห่อปลาหมึกด้วยกระดาษขาวหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่สะอาด จากนั้นใส่ลงในถุงพลาสติกปิดสนิทแล้วเก็บไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น วิธีนี้ช่วยให้ปลาหมึกยังคงความนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง และสามารถเก็บรักษาได้อย่างปลอดภัยนานถึง 6 เดือน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นและเชื้อรา

คำแนะนำในการเก็บรักษาปลาหมึกแห้งไม่ให้ขึ้นรา

  • เก็บรักษาภายนอก: หากไม่มีตู้เย็น คุณยังสามารถอ้างอิง วิธีการเก็บรักษาปลาหมึกแห้ง ของ Ola Squid โดยการห่อให้แน่นในถุงพลาสติกปิดสนิท เก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและความชื้นสูง ทุก 2-3 วัน คุณควรนำปลาหมึกออกมาตากแดดอ่อนๆ ประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้ปลาหมึกแห้งและลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา

ปลาหมึกแห้งขึ้นรา ไม่เพียงแต่ลดคุณภาพของอาหารเท่านั้น แต่ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการหากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง การรับรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ การจัดการอย่างทันท่วงที หรือการกำจัดเมื่อจำเป็นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากต้องการดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม หรือเลือกชมผลิตภัณฑ์ปลาหมึกแห้ง เชิญเยี่ยมชม เว็บไซต์ของ Ola Squid วันนี้เลย!

Rate this post